ผลการแข่งขัน ปิดตำนาน! “เดโฟ” ประกาศแขวนสตั๊ดในวัย 39 ปี หลังร่วมทัพ ซันเดอร์แลนด์ ได้ 1 เดือน
ผลการแข่งขัน เจอร์เมน เดโฟ อดีตกองหน้าทีมชาติอังกฤษ, เวสต์แฮม ยูไนเต็ด, ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ และ กลาสโกว์ เรนเจอร์ส ประกาศแขวนสตั๊ดอย่างเป็นทางการด้วยวัย 39 ปี หลังเจ้าตัวเพิ่งหวนซบตัก ซันเดอร์แลนด์ ในลีกวัน ภายใต้สัญญาระยะสั้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เจ้าตัวยุติเส้นทางล่าตาข่ายไว้ที่ 305 ประตูจากการลงเล่น 763 นัดรวมทุกรายการในระดับสโมสร
ไล่เรียงตั้งแต่ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด, บอร์นมัธ, ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์, พอร์ทสมัธ, โตรอนโต เอฟซี, ซันเดอร์แลนด์ และ กลาสโกว์ เรนเจอร์ส “ให้หลังจาก 22 ปีกับการเล่นฟุตบอล ผมตัดสินใจยุติเส้นทางการเล่นฟุตบอลอาชีพ นับเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบากสำหรับผมหลังจากที่ได้หารือร่วมกับครอบครัวและคนใกล้ชิด” เดโฟ ระบุเริ่มต้นในแถลงการณ์ผ่านบัญชีทวิตเตอร์อย่างเป็นทางการของเจ้าตัว
“ผมลงสนามในเกมเดบิวต์เมื่ออายุได้ 17 ปีในปี 1999 และตอนนี้ผมรู้สึกว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่จะยุติเส้นทางดังกล่าว ผมมีเส้นทางอาชีพที่ยอดเยี่ยมและได้พบกับผู้คนที่น่าทึ่งในวงการตลอดมา” กีฬาฟุตบอล.com
“ฟุตบอลจะยังคงอยู่ในสายเลือดของผมต่อไป มันได้มอบเกียรติยศที่ยิ่งใหญ่และความพึงพอใจที่ยอดเยี่ยมเมื่อผมได้มองย้อนกลับไปในเส้นทางอาชีพที่ผมได้มี ตอนนี้ผมมองไปข้างหน้าเพื่อใช้เวลากับเพื่อนและครอบครัวก่อนที่จะเดินหน้าต่อไปอีกบทหนึ่งของเส้นทางนี้”
“ขอบคุณสำหรับการสนับสนุนจากแฟนบอลของทุกสโมสรที่ผมได้เล่นให้ ความรักจากพวกเขาที่ส่งต่อสู่ผมตลอดเส้นทางอาชีพจะไม่ถูกลืมเลือน ผมจะรักษาสายสัมพันธ์ที่พิเศษเช่นนี้กับพวกคุณทุกคนต่อไป”
“ขอบคุณสำหรับเพื่อนร่วมทีมที่น่าทึ่งของผมไปจนถึง โค้ช ทีมงานสตาฟฟ์ ที่มีส่วนสำคัญตลอดเส้นทางอาชีพของผม” “ท้ายที่สุดนี้ ผมขอขอบคุณ คุณแม่ของผม ที่มอบลูกบอลให้ตั้งแต่อายุได้ 2 ขวบและทำให้ผมเชื่อว่าสามารถทำความฝันให้เป็นความจริงได้ ทุกสิ่งที่ผมเป็นเกิดขึ้นได้เพราะคุณแม่ และผมติดค้างทุกอย่างกับแม่และพระเจ้า”
ติดทีมชาติเฉย! “เบนท์” สุดงง “แม็คไกวร์” ถูกเลือกก่อน “โทโมริ” ดาร์เรน เบนท์ อดีตกองหน้าชื่อดัง ยอมรับว่าเขาไม่รู้สาเหตุที่แน่ชัดว่าทำไม แกเร็ธ เซาธ์เกต จึงเลือก แฮร์รี แม็คไกวร์ กัปตันทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ติดทีมชาติอังกฤษ แทนที่จะใช้งาน ฟิกาโย โทโมริ ดาวเด่นจาก เอซี มิลาน ตามรายงานจาก ทอล์ก สปอร์ต
เซ็นเตอร์แบ็กวัย 28 ปีกำลังถูกวิจารณ์อย่างหนักจากฟอร์มการเล่นในปัจจุบันกับทีมปีศาจแดง แต่ก็ยังมีชื่อในทัพสิงโตคำราม ในขณะที่อดีตแข้ง เชลซี กำลังไปได้สวยกับการย้ายไปเล่นในถิ่นซาน ซิโร โดยเจ้าตัวสามารถยึดตำแหน่งตัวจริงได้อย่างถาวร ลงเล่นไปแล้ว 30 นัด ทำได้ 1 ประตูในฤดูกาลนี้ แต่กลับไม่มีชื่อติดธงในครั้งนี้
หลังทราบชื่อนักเตะที่ติดทีมชาติอังกฤษชุดที่จะลงเล่นในเกมกระชับมิตรกับทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์และไอวอรี โคสต์ ทาง เบนท์ เองได้ตั้งคำถามว่า เพราะเหตุใดยังมีชื่อ แม็คไกวร์ ติดอยู่ในทีมชุดนี้?
“แฮร์รี แม็คไกวร์ เขามีชื่อในทีมได้ยังไง? ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน แกเร็ธ เซาธ์เกต ไม่สามารถเลือกนักเตะได้เรื่อยๆ เพราะพวกเขาไม่เคยทำให้ผิดหวัง” “แม็คไกวร์ ฟอร์มไม่ดีเลยในเวลานี้ นาทีนี้เขาฟอร์มแย่มาก สิ่งสุดท้ายที่เขาจำเป็นต้องทำคือการลงเล่นให้ทีมชาติอังกฤษ” “ถามจริงๆเลยว่า แม็คไกวร์ นั้นฟอร์มดีกว่า โทโมริ ตรงไหน? ไม่มีเลย” อดีตศูนย์หน้า สเปอร์ส และ แอสตัน วิลลา กล่าว
บทเรียนชีวิต! บีบีซี เตรียมฉายสารคดีชีวิต “แกสคอยน์” ตำนานแข้งสิงโตคำราม
ต้องบอกว่าเป็นนักเตะระดับปรากฏการณ์ของวงการลูกหนังอังกฤษสำหรับ พอล แกสคอยน์ อดีตมิดฟิลด์ทีมชาติที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นตำนานจนถึงทุกวันนี้ แต่ชีวิตนอกสนามของเจ้าตัวต้องบอกว่าขึ้นลงยิ่งกว่ารถไฟเหาะตีลังกาเสียอีก ทำให้ล่าสุด บีบีซี สื่อยักษ์ใหญ่แดนผู้ดี เตรียมที่จะนำสารคดีพิเศษเรื่องราวของ อดีตแข้งสิงโตคำราม ออกฉายให้แฟนๆ รุ่นใหม่ได้รับรู้ไม่เพียงแต่เรื่องของเส้นทางการค้าแข้ง
แต่ยังรวมถึงชีวิตส่วนตัวที่วุ่นวาย และการต่อสู้กับเรื่องเหล้า และสารเสพติด โดย ไซม่อน ยัง บรรณาธิการของ บีบีซี เผยว่า “แฟนๆ จะได้เห็นมุมมองใหม่ๆ ที่น่าตกใจเกี่ยวกับสารคดีชุดนี้ที่มีทั้งเรื่องผิดกฎหมายบางอย่างในหนังสือพิมพ์แท็บลอยด์เพื่อเข้าถึงชีวิตส่วนตัวของเขา และไปดูวิธีการจัดการปัญหาของเขา”
“มันจะเป็นเรื่องราวที่ไม่เคยมีใครรู้มาก่อน ซึ่งผมอยากมอบเรื่องราวเหล่านี้ให้กับแฟนๆ ได้นำไปเป็นบทเรียนในชีวิตเท่าที่จะเป็นไปได้ เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่เขา ครอบครัว และเพื่อนของเขา และผู้ที่เขียนเรื่องราวเกี่ยวกับเขได้เลือกที่จะร่วมงานกับเราในเรื่องที่ตรงไปตรงมาจนน่าตกใจ”
ซึ่ง อดีตแข้งในวัย 54 ปี สามารถเอาชนะโรคพิษสุราเรื้อรัง และรอดตายมาได้จากเหตุการณ์เมื่อ 5 ปีก่อน ที่กลายเป็นข่าวดังไปทั่วโลกหลังถูกจับภาพได้ขณะก้าวลงจากรถแท็กซี่ ในสภาพคาบบุหรี่ สวมชุดคลุมอาบน้ำตัวเดียว ไม่ใส่กางเกงใน ไม่ใส่รองเท้า ซึ่งตามรายงานระบุว่าเจ้าตัวออกมาซื้อเหล้ากับยาแก้ปวดที่ร้านค้า
ก่อนที่ในเวลาต่อมาจะมีครอบครัว และเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้นจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งเจ้าตัวเคยเผยว่า “ผมเป็นคนติดเหล้าเสมอ แต่ตอนนี้ผมสามารถดื่มไวน์ได้สองสามแก้ว และเบียร์สองสามขวด ไม่ใช่ทุกวันแต่เมื่อผมต้องการ”
“ผมเคยไปออสเตรเลีย ใช้เงินไปประมาณ 20,000 ปอนด์ เพื่อเข้ารับการผ่าตัดรักษาห้ามไม่ให้ดื่มสุรา เขาจะเอาเม็ดยาบางอย่างใส่เข้าไปในท้องคุณ และทำให้คุณรู้สึกไม่สบายถ้ากินแอลกอฮอล์มากเกินไป มันหมายถึงผมสามารถดื่มเพื่อสังสรรค์ได้ แต่ไม่ใช่หัวราน้ำแบบสมัยก่อน”
สำหรับ พอล แกสคอยน์ ถือเป็นมิดฟิลด์พรสวรรค์สูงที่สุดคนหนึ่งของวงการลูกหนังอังกฤษ เริ่มต้นเส้นทางลูกหนังกับ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ก่อนเริ่มโด่งดังสมัยย้ายไปค้าแข้งกับ สเปอร์ส และกลายเป็นที่รู้จักทั่วโลกจากการลงแข่งขันฟุตบอลโลก 1990 ที่ประเทศอิตาลี แต่ชีวิตก็พลิกผันเพราะติดเหล้า ก่อนกลับมาคืนฟอร์มอีกครั้งในฟุตบอล ยูโร 1996 ซึ่งเป็นทัวร์นาเมนต์สุดท้ายในการรับใช้ชาติ ฝากสถิติไว้ที่ 57 นัด ทำได้ 10 ประตู
เกมนี้ยาว! “เมอร์สัน” ฟันธงสกอร์ เชลซี บู๊ ลิเวอร์พูล
พอล เมอร์สัน กูรูดังเชื่อว่า รอบชิงชนะเลิศ ที่ ลิเวอร์พูล จะพบกับ เชลซี ในวันอาทิตย์นี้นั้นจะไม่สามารถหาผู้ชนะได้ในเวลาปกติ ตามรายงานจาก ลิเวอร์พูล เอ็คโค “เมื่อผมมองไปที่ทั้ง 2 ทีมและฟอร์มการเล่นของพวกเขาในซีซั่นนี้ ผมคิดว่ามันจะเป็นเกมที่สูสีและมีการยิงประตูกันอย่างมากมาย”
“เชลซี คือหนึ่งในทีมที่มีเกมรับที่ดีที่สุดในโลก ส่วน ลิเวอร์พูล นั้นมี 3 กองหน้าที่สุดโดดเด่นและผมก็รู้สึกทึ่งกับการที่พวกเขายิงได้หลายประตูในช่วงที่ผ่านมา” “สำหรับสนามเวมบลีย์นั้นคือสัญลักษณ์อันยิ่งใหญ่และเราก็ได้เป็นพยานในเกมที่ยอดเยี่ยมในโลกฟุตบอลซึ่งเกิดขึ้นในเมืองหลวงแห่งนี้ในช่วงตลอดหลายปีที่ผ่านมา”
“การทำนายผลการแข่งขันของเกมนี้ถือเป็นงานที่เป็นไปไม่ได้ แต่ผมเชื่อว่าผลจะออกมาที่เสมอกัน 2-2 ส่วนการดวลจุดโทษนั้นเหมือนกับการเสี่ยงเหรียญ เพราะไม่มีใครบนโลกใบนี้จะรู้ได้ว่ามันจะออกมาหน้าไหน” เมอร์สัน กล่าว
“แลมพาร์ด” ประเดิมเฮ! เอฟเวอร์ตัน ทุบ เบรนท์ฟอร์ด 4-1 ลิ่วเอฟเอ คัพ การแข่งขันฟุตบอลเอฟเอ คัพ อังกฤษ 2021/22 รอบสี่ เอฟเวอร์ตัน ที่นัดนี้เป็นเกมประเดิมกุนซือใหม่อย่าง แฟรงค์ แลมพาร์ด เปิดสนามกูดิสัน พาร์ก รับการมาเยือนของ เบรนท์ฟอร์ด คู่แข่งร่วมพรีเมียร์ลีก
วันนี้เจ้าถิ่นใช้แผน 4-2-3-1 วิตาลี มิโคเลนโก, แอนโธนี กอร์ดอน, เดมาไร เกรย์ และ ริชาร์ลิซอน นำทัพในแนวรุก ด้านทีมเยือนมาในระบบ 3-1-4-2 ไอแวน โทนีย์ จับคู่ เซร์กี คาญอส ในแดนหน้า ริโก เฮนรี กับ มาธิอัส เยนเซน คอยสนับสนุน
ผลการแข่งขันปรากฏว่า ขุนพลท็อฟฟี่สีน้ำเงินเป็นฝ่ายเอาชนะไปได้ 4-1 ได้ประตูจากตัวสำรอง เยร์รี มินา นาที 31, ริชาร์ลิซอน นาที 48, เมสัน โฮลเกต นาที 62 ปิดท้ายด้วยตัวสำรอง อันดรอส ทาวน์เซนด์ นาที 90+1 ส่วนทัพผึ้งน้อยได้คืนจาก ไอวาน โทนีย์ สังหารจุดโทษตุงตาข่ายนาที 54 จากชัยชนะนัดนี้ ทำให้ เอฟเวอร์ตัน ผ่านเข้าสู่รอบห้า หรือ รอบ 16 ทีมสุดท้ายของศึกเอฟเอ คัพ 2021/22 ได้สำเร็จ